รีวิวแนะนำ 5 อันดับ ไดร์เป่าผม เลือกซื้อ ยี่ห้อไหนดี ปี 2024 - Promotionth
January 18, 2024

รีวิวแนะนำ 5 อันดับ ไดร์เป่าผม เลือกซื้อ ยี่ห้อไหนดี ปี 2024

By 0 37479 Views

ถ้าหากคุณกำลังมองหาไดร์เป่าผมตัวใหม่ แน่นอนว่าทุกคนต่างก็อยากได้รุ่นที่มีฟังก์ชั่นทำงานดีกว่ารุ่นเดิมเป็นแน่“ไดร์เป่าผม”เป็นอีกหนึ่งเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีการพัฒนาอยู่เสมอฉะนั้นถ้าไม่อยากเลือกซื้อรุ่นที่เอาท์หรือเก่าเกินไป ก่อนซื้อควรที่จะติดตามอัพเดทข่าวสารกันว่าสมัยนี้เค้านิยมใช้รุ่นไหนอย่างไรกันบ้าง บทความนี้จึงอาสามาอัพเดทไดร์เป่าผมรุ่นฮิตให้หลายคนได้เลือกซื้อ พร้อมทั้งมีเทคนิควิธีการเลือกซื้อไดร์เป่าผมมาฝากกันด้วย ถ้าอยากรู้แล้ว ตามมาดูกันเลยค่ะ

วิธีเลือกซื้อไดร์เป่าผมอย่างไรให้ได้ของดีที่เหมาะสมกับการใช้งาน

1. ความแรงของได้เป่าผมโดยปกติเวลาเลือกซื้อไดร์เป่าผมมักจะต้องลองเสียบปลั๊กและเปิดใช้งานดูว่ามันแรงมากแค่ไหน แต่สำหรับการเลือกซื้อผ่านช่องทางออนไลน์ ก็สามารถเช็คความแรงของไดร์ได้ด้วยเช่นกัน โดยสังเกตจากการจำนวนวัตต์สำหรับการซื้อไดร์เป่าผมเพื่อใช้งานเอง กำลังไฟที่เหมาะสมจะอยู่ที่1500 – 2200วัตต์ก็ถือว่าเพียงพอ ยิ่งจำนวนวัตต์สูงยิ่งเป่าได้แรงขึ้น

2. ความยาวของสายไฟเหมือนจะไม่ใช่ประเด็นสำคัญ แต่ความจริงแล้วความยาวของสายไฟมีความสำคัญมากเลยทีเดียว การที่เราซื้อไดร์เป่าผมไปใช้เองนั้นต้องคำนึงถึงความยาวของโต๊ะเครื่องแป้งกับจุดเสียบปลั๊ก เพราะหลายคนไม่สะดวกในการใช้ปลั๊กต่อ และที่สำคัญคนที่ใช้งานมากกว่า 50% ที่ยืนไดร์ผมต้องมีการยกไดร์ให้สูงเพื่อเป่าศีรษะได้รอบทิศทาง ฉะนั้นความยาวของสายจึงมีความสำคัญมาก

3. กระแสไอออนขั้วลบกระแสไอออนขั้วลบที่ออกจากไดร์เป่าผม จะไปจับกับกระแสไอออนขั้วบวกซึ่งก็คือน้ำหรือความชื้นที่อยู่บนเส้นผม มีหน้าที่ทำให้ผมแห้งเร็วขึ้นและไม่ทำลายเส้นผมของคุณ หลายคนเมื่อเลือกซื้อไดร์เป่าผมจึงมักให้ความสนใจว่าไดร์รุ่นที่เลือกจะสามารถส่งกระแสไอออนขั้วลบได้ด้วยหรือไม่

4. การปรับระดับของไดร์เป่าผม ไม่ว่าจะเป็นระดับความร้อน ความเย็น หรือความแรงของไดร์เป่าผม ต่างก็เป็นอีกหนึ่งจุดที่หลายคนให้ความสนใจ เพราะทุกวันนี้ผู้ชายต่างก็ใช้ไดร์ในการเซ็ตผมเป็นประจำซึ่งใช้บ่อยไม่ต่างจากผู้หญิงเลย ฉะนั้นถ้าหากว่าไดร์ที่คุณเลือกซื้อสามารถปรับระดับได้หลากหลายก็ย่อมทำให้สามารถใช้ร่วมกันได้ทั้งหญิงและชายนั่นเอง

5. ราคา แน่นอนว่าสิ่งสำคัญที่สุดก็ต้องเป็นเรื่องของราคา แต่ว่ากันตามความเป็นจริง ราคาของสินค้าย่อมแปรผันตรงกับคุณภาพของสินค้า กล่าวคือถ้าหากสินค้ามีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลาย ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี เป็นมิตรต่อเส้นผม ไม่ทำลายเส้นผมให้เสียไปกว่าเดิม ย่อมทำให้ไดร์เป่าผมมีราคาแพงขึ้นตามไปด้วย ฉะนั้นสินค้าราคาถูกที่สุดจึงอาจไม่ใช่สินค้าที่ดีที่สุดเสมอไป จำเป็นต้องดูคุณภาพสินค้าประกอบการตัดสินใจด้วย

1. ไดร์เป่าผม CKL รุ่น CKL-3900

ไดร์เป่าผม CKL รุ่น CKL-3900 ยี่ห้อไหนดี

      ขึ้นชื่อว่าไดร์เป่าผมที่ “ร้อนเร็วและลมแรง” ต้องยกให้ “ไดร์เป่าผม CKL” เป็นแบรนด์ที่มีคนใช้เยอะพอสมควร เพราะด้วยชื่อเสียงที่ติดตลาดมายาวนาน และแบรนด์ยังมีการพัฒนาไดร์เป่าผมออกมามากมายหลายรุ่น อย่างCKL-3900 ก็เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน ราคาไม่แรง!แต่สวนทางกับกำลังวัตต์ที่แรงถึง 1500-1700 วัตต์!สามารถปรับความแรงของลมได้ ปรับอุณหภูมิร้อนได้ มาพร้อมหัวไดร์ถึง 2 ขนาดซึ่งยอมรับเลยว่ามาตรฐานดีไม่มีตก
ด้วยกำลังไฟถึง 1500-1700 วัตต์ ความแรงมากเพียงพอที่จะเป่าผมหรือจัดแต่งทรงผมของคุณอย่างง่ายดาย ไม่ว่าผมจะหนาหรือยาวแค่ไหน กำลังไฟขนาดนี้ก็สามารถเป่าผมให้แห้งได้ภายในไม่กี่นาที หรือถ้าจะจัดแต่งทรงผม ไม่ว่าจะทำลอนเล็กหรือใหญ่ก็ทำได้สบายนอกจากนี้ยังมีการออกแบบรูปทรงให้มีความสะดวกในการใช้งานเป็นไดร์ที่มีความยาวประมาณ 9 นิ้วน้ำหนักเบา จับถนัดมือ หรือถ้าหากไม่มีที่เก็บก็ยังสามารถใช้แขวนได้เพราะมีห่วงมาให้ในตัวด้วย

    กำลังไฟ 1500-1700 วัตต์
  • มีระบบลมเย็น ลมร้อน
  • ปรับความแรงลมได้ 2 ระดับ
  • ปรับอุณหภูมิร้อน 2 ระดับ
  • ขนาดความยาวท่อลม 9.5 นิ้ว
  • น้ำหนักเบาเพียง 720 กรัม
  • สายไฟยาว 2 เมตร
  • มาพร้อมหัวเป่าถึง 2 หัว ขนาดเล็กและขนาดใหญ่
  • มีที่แขวน ง่ายต่อการจัดเก็บ
    ข้อดี

  • เป็นไดร์เป่าผมที่ราคาไม่แพง
  • ออกแบบฟังก์ชั่นการใช้งานไม่ยุ่งยาก
  • สามารถใช้หัวไดร์ หรือไม่ใช้ก็ได้

 

2. ไดร์เป่าผม Philips รุ่น BHD029

ไดร์เป่าผม Philips รุ่น BHD029 ยี่ห้อไหนดี

ไดร์เป่าผม Philips รุ่น BHD029 เอาใจคนรักผมด้วยดีไซน์ไดร์ที่สวยโมเดิร์นกว่าใครพลังงาน 1600 วัตต์ แต่ต้องบอกเลยว่าแรงเทียบเท่ากับได้เป่าผมขนาด 2100 วัตต์เลยทีเดียว นั่นหมายความว่า ทุกครั้งที่คุณใช้ไดร์เป่าผม จะสามารถประหยัดไฟได้เทียบเท่าถึง 23% นั่นเป็นเพราะ Philips มีการออกแบบพัดลมรูปแบบใหม่จึงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น และนอกจากนี้ยังมีระบบที่เรียกว่า ไอออน ซึ่งเป็นประจุลบที่ทำให้ผมแห้งเร็วขึ้นแต่ไม่ทำให้ผมเสีย ตรงกันข้ามจะช่วยกำจัดไฟฟ้าสถิต ทำให้ผมเรียบสวยไม่ชี้ฟู แถมยังดูเงางามอีกด้วย
นอกจากนี้ ยังมีคุณสมบัติในการกระจายความร้อนได้อย่างทั่วถึง การที่ความร้อนไม่กระจุกตัวจะช่วยให้ผมแห้งเร็วขึ้น ลดการเกิดผมแห้งแตกปลาย และทำให้เส้นผมมีสุขภาพดีแม้ต้องไดร์ทุกวันสามารถปรับระดับความร้อนได้ 3 ระดับและปรับระดับความเร็วได้ 2 ระดับ ไม่ว่าจะผู้หญิงหรือผู้ชายก็ปรับระดับที่เหมาะสมกับแต่ละบุคคลได้มากขึ้น หรือถ้าต้องจัดแต่งทรงผมเป็นพิเศษ ก็สามารถเป่าลมได้เฉพาะที่มากขึ้น เพราะหัวเป่าขนาดเพียง 12 มม. จึงช่วยล๊อกทรงผมได้สวยดั่งใจ

  • กำลังไฟ 1600 วัตต์
  • มีระบบลมเย็น ลมร้อน
  • ปรับความแรงลมได้ 2 ระดับ
  • ปรับอุณหภูมิร้อน 3 ระดับ
  • มีระบบไอออน
  • มีระบบ DryCare Essential
  • สายไฟยาว 1.8เมตร
  • มาพร้อมหัวเป่า1 หัว ปากแคบเพียง 12 มม. เหมาะสำหรับการจัดแต่งทรงผม
  • มีที่แขวน ง่ายต่อการจัดเก็บ
    ข้อดี

  • ผมแห้งเร็ว แต่ใช้พลังงานน้อยกว่าประหยัดไฟมากกว่า
  • การจายความร้อนได้ทั่วถึง
  • มีระบบไอออน ทำให้ผมเรียงตัวสวยไม่ชี้ฟู

 

3. ไดร์เป่าผม Lesasha รุ่น LS0958

ไดร์เป่าผม Lesasha รุ่น LS0958 ยี่ห้อไหนดี

ไดร์เป่าผม Lesasha รุ่น LS0958 มาพร้อมกับกำลังไฟที่สูงถึง 2000 วัตต์และระบบเทอร์โบดรายไม่ว่าจะใช้งานนานแค่ไหนก็สบายหายห่วง และถึงการใช้งานโดยปกติอาจจะใช้เพียงไม่กี่นาที แต่ข้อดีก็คือผมจะแห้งเร็วขึ้นอีกหลายเท่า เหมาะสำหรับการเป่าผมในวันที่เร่งรีบ หรือสำหรับคนที่ชอบสระผมก่อนนอนช่วยป้องกันเชื้อแบคทีเรียที่อาจเกิดจากผมไม่แห้ง
มาพร้อมกับด้ามจับที่กระชับ ไดร์ผมเองก็จับถนัดมือน้ำหนักเบาใช้งานนานแค่ไหนก็ไม่ทำให้ข้อมือล้า อีกหนึ่งจุดเด่นของไดร์เปาผมLesashaรุ่น LS0958 คือสายไฟที่มีความยาวถึง 2.5 เมตร ช่วยอำนวยความสะดวกกรณีที่ต้องยืนไดร์ผมหรือไม่มีปลั๊กต่อพ่วง

  • กำลังไฟ 2000 วัตต์
  • มีระบบลมเย็น ลมร้อน
  • ปรับความแรงลมได้ 2 ระดับ
  • ปรับอุณหภูมิร้อน 3 ระดับ
  • สายไฟยาว2.5เมตร
    ข้อดี

  • มีระบบ เทอร์โบดรายช่วยให้ผมแห้งเร็ว
  • สายไฟยาวสะดวกในการยืนไดร์ หรือไม่มีปลั๊กต่อพ่วง

 

4. ไดร์เป่าผม Philips รุ่น BHD004

ไดร์เป่าผม Philips รุ่น BHD004 ยี่ห้อไหนดี

ไดร์เป่าผม Philips รุ่น BHD004 จุดเด่นของไดร์เป่าผมรุ่น BHD004มีหลายประการ อย่างแรกเลยคือการออกแบบโดยผู้เชี่ยวชาญด้านเสียงของ Philips ทำให้ไดร์เป่าผมรุ่นนี้มีเสียงที่นุ่มนวลกว่าใคร อีกหนึ่งความพิเศษคือหัวไดร์เป่าผมที่มีให้เลือกใช้ได้ถึง 2 ประเภท นั่นก็คือหัวไดร์เป่าปากแคบที่มีขนาดเพียง 20 mm. เหมาะสำหรับการเซ็ตผม หรือจัดแต่งทรงผมที่สามารถจี้ความร้อนได้เฉพาะจุด และอีกประเภทคือหัวเป่ากระจาย เหมาะสำหรับเป่าผมให้แห้งหลังจากสระผม ช่วยทำให้ผมแห้งไว
การตั้งค่าอุณหภูมิด้วย ThermoProtect เป็นระบบที่ช่วยรักษาระดับอุณหภูมิไม่ให้ร้อนจนเกินไป และถ้าหากจะพกพาไปใช้นอกสถานที่ก็ไม่ต้องกังวล เพราะไดร์เป่าผมรุ่นนี้มีขนาดกระทัดรัด เหมาะสำหรับพกพา แถมยังมีที่แขวนในตัวด้วย

  • กำลังไฟ 1800 วัตต์
  • มีระบบลมเย็น ลมร้อน
  • มีระบบThermoProtect ช่วยรักษาระดับอุณหภูมิขณะเป่า
  • ปรับความแรงลม/ความร้อน3 ระดับ
  • สายไฟยาว 1.8เมตร
  • มาพร้อมหัวเป่าถึง 2 แบบ หัวเป่าเฉพาะจุด และหัวเป่ากระจายลม
  • มีที่แขวน ง่ายต่อการจัดเก็บ
    ข้อดี

  • มีระบบเสียงที่นุ่มนวล
  • กำลังลมแรง ผมแห้งไว
  • ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก
  • มีหัวเป่ากระจายลมทำให้ผมไม่เสีย

 

5. ไดร์เป่าผม TAIFIT รุ่น MMD-1689

TAIFIT รุ่น MMD-1689 ยี่ห้อไหนดี

ไดร์เป่าผม TAIFIT รุ่น MMD-1689 ถ้าหากคุณกำลังมองหาไดร์เป่าผมราคาเหมาะสมแต่คุณภาพระดับมืออาชีพต้องรุ่นนี้เลย ไดร์เป่าผม TAIFIT Meimanda Hair dryer รุ่นMMD-1689สี black เพราะมาพร้อมกับกำลังไฟสูงถึง 3200 วัตต์ กำลังไฟแรงสามารถเป่าผมให้ลูกค้าได้ยาวนานตลอดวัน
เป็นไดร์เป่าผมที่มีน้ำหนักเบาสามารถถือไดร์ได้ในเวลานาน ขนาดกะทัดรัดจับถนัดมือไม่ว่าจะซื้อสำหรับใช้งานส่วนตัวหรือทางร้านทำผมจะใช้กับลูกค้าก็สามารถใช้งานง่าย ผลิตจากวัสดุคุณภาพชั้นเยี่ยม มีความแข็งแรงทนทาน อายุการทำงานยาวนานและที่สำคัญสามารถปรับความแรงลมได้ถึง5 ระดับ ได้แก่

  • ลมเบา เหมาะสำหรับคนที่มีเส้นผมบอบบาง ผมแห้งเสีย คนที่ไม่ควรให้ผมโดนความร้อน
  • ลมแรง เหมาะสำหรับการใช้เมื่อผมเปียก หลังจากสระผมหมาด ๆ
  • ลมเย็น เหมาะสำหรับการเป่าผมโดยทั่วไป
  • ลมอุ่น เหมาะสำหรับการเซ็ตทรงผมที่ต้องจ่อไดร์เป็นเวลานาน รวมทั้งคนที่มีผมเส้นเล็ก
  • ลมร้อนเหมาะสำหรับการใช้เมื่อผมเปียก หลังจากสระผมหมาด ๆ และต้องการลมร้อนให้ผมแห้งเร็วขึ้น
  • กำลังไฟ 3200 วัตต์
  • ปรับความแรงลม 5 ระดับ ได้แก่ 1.ลมเบา 2.ลมแรง 3. ลมเย็น 4.ลมอุ่น 5.ลมร้อน
  • มีหัวเป่าในเซ็ต
  • ข้อดี

  • จับถนัดมือ เหมาะสำหรับมืออาชีพและผู้ใช้งานทั่วไป
  • กำลังลมแรง ผมแห้งไว

 

และนี่ก็เป็นเทคนิควิธีในการเลือกซื้อไดร์เป่าผมที่เรานำมาฝากกันนะคะ ก่อนตัดสินใจซื้ออย่าลืมทดสอบการใช้งานก่อนซื้อทุกครั้ง หรือถ้าหากซื้อผ่านร้านค้าออนไลน์ ก็อย่าลืมเช็คเรื่องประกันสินค้ารวมทั้งเงื่อนไขในการจัดส่งต่าง ๆ และที่สำคัญคือเลือกไดร์เป่าผมที่มีคุณสมบัติตามความต้องการของเรา ฟังก์ชั่นไหนที่ไม่ได้ใช้งานก็อาจจะหาไดร์รุ่นที่เหมาะสมกว่าเพราะจะทำให้คุณได้ไดร์เป่าผมที่ถูกใจในราคาที่เหมาะสมที่สุดนั่นเองค่ะ