เปียโนไฟฟ้า รุ่นไหนดีที่เหมาะกับการมีเอาไว้ติดบ้าน รองรับการเสริมสร้างพัฒนาการและสร้างความบันเทิงภายในบ้าน ช่วยฝึกสมาธิ ผ่อนคลายสมอง และช่วยปรับสภาพทางด้านอารมณ์ได้เป็นอย่างดี สำหรับเครื่องดนตรีชิ้นนี้เป็นอีกหนึ่งความต้องการของคนที่มีใจรักในเสียงดนตรี ชื่นชอบการละเล่น การใช้เวลาว่างไปกับการเล่นดนตรีเพื่อผ่อนคลายสมอง ทำให้เปียโนไฟฟ้าเป็นอีกหนึ่งสิ่งที่น่าสนใจสำหรับกลุ่มคนดังกล่าว ครั้งนี้จะเป็นการรีวิวเปียโนระบบไฟฟ้าทั้ง 5 รุ่น ได้แก่
เปิดรีวิวแรกสำหรับเปียโนไฟฟ้า ด้วยแบรนด์ดังยอดนิยมกับ Yamaha หนึ่งแบรนด์ในวงการของเครื่องดนตรีที่ได้รับการตอบรับที่ดีเสมอมา ครั้งนี้มาพร้อมกับเปียโนไฟฟ้ารุ่น P-115 ดีไซน์เปียสีดำ ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับการจัดวางภายในบ้าน รองรับการจัดวางแบบติดฝาผนัง ในส่วนของเครื่องดนตรีชิ้นนี้ ยังมาพร้อมขาตั้งและที่วางโน้ต ในส่วนของระบบเสียงแทบไม่ต้องพูดถึง เพราะตรงตามมาตรฐานของ Yamaha เสียงใสไพเราะ เหมาะสำหรับการสรรค์สร้างเสียงเพื่อความบันเทิง สามารถใช้ประกอบอาชีพได้ หรือฝึกฝนซักซ้อมได้ เป็นอุปกรณ์คู่ใจนักดนตรีมืออาชีพได้อย่างไม่ขัดข้อง
ดีไซน์ของเปียโนไฟฟ้ารุ่นนี้ ค่อนข้างเรียบง่าย ไม่ใหญ่โตเทอะทะ และไม่เน้นความหรูหรา เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเครื่องดนตรีเอาไว้ฝึกทักษะ ที่ไม่เน้นเรื่องของงานออกแบบมากนัก และเหมาะสำหรับบ้านที่มีพื้นที่ไม่มาก เพราะตัวเครื่องดนตรีมีขนาดค่อนข้างเล็ก อีกทั้งยังรายละเอียดไม่เยอะแยะ จึงช่วยประหยัดเนื้อที่
ยังคงอยู่กับเปียโนไฟฟ้าแบรนด์Yamaha เจ้าของเครื่องดนตรีเสียงใส เสียงดีขั้นเทพ กับรุ่นที่มีชื่อว่า P125 มาพร้อมกับระบบเสียงที่มีการเลียนแบบเสียงเปียโนได้ใกล้เคียงที่สุดออกแบบด้วยสีดำ ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับการจัดวางภายในบ้าน โดยเฉพาะการจัดวางแบบชิดฝาผนัง ด้านล่างโปร่ง มาพร้อมขาตั้งและเก้าอี้ 1 ตัว และ Pedal 1 เหยียบ ในเรื่องของระบบเสียงคล้ายคลึงยามาฮ่าแกรนด์เปียโน ทั้งยังอัดแน่นด้วยลำโพง 2ทิศทางในตัวมีแป้นคีย์ทั้งหมด 88 แป้นด้วยกัน ระบบค้อนแบบสมจริง Graded Hammer Standard (GHS) action ให้น้ำหนักเสียง 4 แบบ ได้แก่ Soft, Medium, Hard และ Fixedสามารถเล่นเพลงเดโมได้ 21 เพลง และเล่นเพลงเปียโนได้อีก 50 เพลง
ฟังก์ชั่นในเรื่องของเสียงถือว่าจัดเต็มทีเดียว มีช่องเสียบ Audio ขนาด 1/4 นิ้ว 2 ช่อง และช่องเสียบหูฟังขนาด ¼ นิ้วอีก 2 ช่อง ลำโพง Woofer ขนาด 4.7 นิ้ว 2 ตัว และลำโพง Tweeter ขนาด 1.5 นิ้ว 2 ตัว รองรับการบรรเลงเสียงดนตรีได้อย่างเต็มรูปแบบเลยทีเดียว
ขอวาร์ปมาที่ CASIO กันบ้าง อีกหนึ่งแบรนด์สินค้าคุณภาพเยี่ยม สำหรับเปียโนไฟฟ้ารุ่นนี้ มาพร้อมขาตั้งขาเหยียบ SP-33C2 และอะแดปเตอร์บอกเลยว่าคุณสมบัติเหมาะสำหรับผู้ที่มีใจรักในเสียงดนตรีไม่แพ้รุ่นอื่นๆ รับชมดีไซน์กันก่อน ใช้สีเบสิคกับสีดำ รูปร่างและขนาดเหมาะสำหรับการจัดวางในพื้นที่น้อยอีกเช่นเคย มาพร้อมลำโพงขนาด 2×8 วัตต์ มีแหล่งกำเนิดเสียงหลายมิติด้วยกัน เพื่อเสียงที่คมชัดและกังวาน พร้อมถ่ายทอดทุกตัวโน้ตกันแบบชัดเจน มาพร้อมขาเหยียบ 3 สามารถเชื่อมต่อกับลำโพงภายนอกได้ผ่านช่องเสียบที่ออกแบบเอาไว้รองรับโดยเฉพาะ ประกอบไปด้วย 128 ตัวโน้ต และคีบอร์ดประเภทTri-sensor Scaled Hammer Action II
รีวิวเปียโนไฟฟ้าต่อไปที่ยี่ห้อ KAWAI มารับชมดีไซน์ของรุ่น KDP110 กันก่อน มาพร้อมสีดำสีพื้นฐานของเครื่องดนตรี ช่วยให้การจัดวางประดับภายในบ้านนั้นง่ายขึ้น รุ่นนี้ที่ด้านล่างจะทึบไม่โปร่งเหมือนรุ่นก่อนๆ ที่รีวิวมา ดูแข็งแรงหนาแน่นกว่า โดยที่ด้านบนเหนือเครื่องดนตรียังคงโปร่ง มีที่วางโน้ตในตัว มาพร้อมขาตั้ง เก้าอี้และที่เหยียบ 3 และหูฟังอีก 1
คุณสมบัติด้านเสียง มาพร้อมแป้นคีย์ 88 แป้น มีเซ็นเซอร์ 3 ระดับสามารถจับจังหวะตามแรงนิ้วมือได้ ทำให้เสียงแตกต่างกันไปตามแรงกดของผู้ใช้งาน แป้นคีย์มีความด้าน เพื่อให้สัมผัสง่ายไม่ลื่น เล่นเพลงได้สะดวกกว่า ส่วนตัวแป้นเยียบก็มีระบบรองรับแรงกระแทก ทั้งยังสามารถปรับให้เหยียบครึ่งเสียงได้ซาด์ของเปียโนที่ออกแบบมานั้นสมจริงเหมือนเปียโนไม้ และเป็นระบบสเตอริโอ ทำให้เสียงไพเราะและกังวาน มาพร้อมลำโพงขนาด 12 นิ้ว 2 ดอกทั้งยังรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth
ปิดท้ายด้วยเปียโนไฟฟ้าสีขาวสะอาดตา ดีไซน์สวยงามลงตัวสุดๆ จากแบรนด์Korgรุ่น B1SP รองรับการบรรเลงเสียงดนตรีด้วยแป้นคีย์จำนวน 88 คีย์ด้วยกัน ประกอบไปด้วย Polyphonyสูงสุด120 เสียง มาพร้อมขาตั้งและขาเหยียบ 3 มีลำโพงในตัวจำนวน 2 ดอก ออกแบบเป็นรูปไข่ เสียงอะคูสติกจำนวน3 มี Harpsichordในส่วนของการเชื่อมต่ออุปกรณ์ภายนอกนั้นค่อนข้างน้อยสำหรับเครื่องดนตรีชิ้นนี้ เหมาะสำหรับการบรรเลงเสียงดนตรี สามารถใช้ได้กับมือใหม่และผู้ที่ต้องการผ่อนคลายภายในบ้านว่าง่ายๆ คือระบบเสียงอาจไม่ได้ขั้นเทพนัก เมื่อเปรียบเทียบกับรุ่นอื่นๆ
ทั้งหมดนี้ก็เป็นการรีวิวเปียโนไฟฟ้าทั้งหมด 5 รุ่นด้วยกัน สามารถเลือกใช้งานให้เข้ากับไลฟ์สไตล์ได้ง่ายๆ ด้วยการเลือกคุณสมบัติให้เหมาะสม ในระดับราคาที่สอดคล้องกับการใช้งาน หากคุณเป็นนักดนตรีมืออาชีพในเรื่องของเสียง อาจต้องพิถีพิถันหน่อย แต่ถ้าต้องการแค่เล่นดนตรีคลายเครียด อาจไม่ต้องจัดเต็มมากนัก เพียงแค่แป้นคีย์ครบจำนวนก็น่าจะเพียงพอ